ผลงานวิจัยเผยการดื่มชาวันละ 2 แก้ว ลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตได้

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Annals of Internal Medicine เปิดเผยว่า การดื่มชาดำวันละสองแก้วขึ้นไป มีโอกาสช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตได้

งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ระบุว่า ชาดำอุ่นๆ สักหนึ่งถ้วยในแก้วใบโปรด นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังใจในการทำงานแล้ว ยังอาจส่งผลดีต่อร่างกายชนิดที่ลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตลงได้อีกด้วย

การศึกษาครั้งนี้ ได้ทำการศึกษากับตัวอย่างเพศชายและเพศหญิงรวมกันราว 5 แสนคนในสหราชอาณาจักร ระหว่างอายุ 40 ถึง 69 ปี พร้อมด้วยข้อมูลทางพันธุกรรมและสุขภาพเชิงลึกในช่วงระหว่างปี 2006 จนถึงปี 2010 จาก Biobank อีกทั้งยังมีฐานข้อมูลที่รายงานพฤติกรรมการดื่มชา โดยมีการระบุถึงความถี่ในการดื่ม และสิ่งที่ถูกเพิ่มเติม (added) ลงในชา

ดร.มากิ อิโนะอุเอะ-ชอย หนึ่งในผู้ทำการวิจัย กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมทำการวิจัยครั้งนี้ มีทั้งส่วนที่ดื่มชาและไม่ดื่มชา ซึ่งมีข้อมูลที่ถูกบันทึกว่า บางคนที่ดื่มชาเป็นประจำก็ดื่มมากถึง 10 แก้วต่อวัน ทั้งนี้ จากการศึกษา พบว่า ผู้ที่ดื่มชาสองถ้วยขึ้นไปทุกวัน มีโอกาสที่จะลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ, หลอดเลือด, โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง

การดื่มชา

สาเหตุที่ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ เป็นเพราะว่า ชามีสารที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ สามารถลดความเครียด และการอักเสบ ซึ่งเป็นการป้องกันสุขภาพจากโรคหัวใจ

ทางด้านการเพิ่มนมหรือน้ำตาลในชาแก้วโปรด อาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ แต่การเติมน้ำตาลหรือนมแต่ละครั้ง จำเป็นต้องคำนึงในเรื่องของปริมาณน้ำตาล และไขมันอิ่มตัวจากนมด้วย

ผู้วิจัยกล่าวต่อไปว่า การค้นพบครั้งนี้อาจสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ดื่มชาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่การค้นพบครั้งนี้ยังต้องผ่านการศึกษาอีกมาก และยังไม่ถึงขั้นแนะนำให้บรรจุการดื่มชาทุกวันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน

ทางด้านรองศาสตราจารย์ฮาเวิร์ด เซสโซ จากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด และนักระบาดวิทยาจากบริกแฮม ให้ความเห็นว่า การวิจัยเกี่ยวกับการดื่มชาเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น แต่ยังต้องทำการศึกษาอีกมาก อีกทั้งการศึกษาที่ว่านี้ ไม่ได้พิสูจน์ว่า การบริโภคชาช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งกำลังดื่มชาเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาดำ ก็สามารถดื่มต่อได้